โรงงานที่ใช้ผลิตครีมกันแดดแบรนด์ ลักซูรี่ สกิน (Luxury Skin)
Medical Standard of Beauty Brand
วันนี้เรามาดูโรงงานที่ใช้ผลิตครีมกันแดด ลักซูรี่ สกิน (Luxury Skin)
จึงทำให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตเป็นอย่างยิ่ง โดยเราเหนือกว่าในเชิง บุคลากร การควบคุม คุณภาพ การดำเนินการผลิต ตลอดจนอาคารสถานที่และเครื่องมือ จึงมั่นใจได้ ว่าสินค้าของเราทุกชนิด ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญอีกทั้งมาตรฐานสากลต่างๆที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการดำเนินงานภายในองค์กร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ISO 9001:2008, GMP, HACCP เพื่อ เป้าหมายที่จะเป็นผู้ส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเป็นที่น่าเชื่อถือ ด้านความเป็นมืออาชีพ
นวัตกรรมและการบริการ
Research and Development
ทางโรงงานผลิตเรามีทีมงาน นักวิทยาศาสตร์ เภสัชกร นักเคมีและทีมแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางด้านการคิดค้นพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ดังนั้นเราจึงมีความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยจุดเริ่มต้นของการค้นคว้าวิจัย คือความคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้เหมาะสมกับตัวผลิตภัณฑ์ที่จะทำการพัฒนาจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นออกมาสู่ผู้บริโภคนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีคุณภาพ ความปลอดภัยได้มาตรฐานสากล
Quality Control
โรงงานผลิตของเรา มีระบบควบคุมคุณภาพของสินค้า โดยก่อนที่จะออกมาเป็นผลิภัณฑ์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้านั้นเรามีการตรวจสอบคุณภาพ ตั้งแต่การตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบที่รับเข้ามาทำการผลิต การตรวจสอบคุณภาพของกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานโรงงาน GMP ตลอดจนการบรรจุหีบห่อให้ได้คุณภาพมาตรฐานและการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งหมดที่เราทำนี้เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด
Production
ในกระบวนการผลิตเครื่องสำอาง เราวางแผนขั้นตอนการผลิต การควบคุมและการตรวจสอบรายละเอียดทุกขั้นตอน โดยบุคลากรที่มีความชำนาญการด้านการผลิตเครื่องสำอางโดยเฉพาะและเครื่องมือทันสมัยเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ และมาตรฐานของสินค้าและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากที่สุด
ระบบและมาตราฐานในการผลิต
Clean Room ดำเนินการผลิตในห้องคลีนรูม รองรับระบบการผลิตตามมาตรฐาน GMP/PICs
GMP / PICs คือหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้เป็นแนวทางในการผลิตยาแผนปัจจุบันในประเทศแถบยุโรป
GMP / PICs จะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมาก ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยใช้ GMP/PICs นี้ จะได้คุณภาพที่ดีมากและมีความปลอดภัยสูงต่อผู้บริโภค
- ผนังคลีนรูม พื้นผิวจะเรียบ ไม่สะสมฝุ่นและทำความสะอาดง่าย วัสดุที่ทำผนังเป็น PU (Polyurethane) ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อนต่ำ ทำให้สามารถรักษาอุณหภูมิในพื้นที่ผลิตให้คงที่ บริเวณรอยต่อระหว่างพื้นกับผนังจะถูกปิดด้วยบัว PVC เพื่อให้ไม่สะสมฝุ่น
- ประตูจะติดด้วยกระจกนิรภัยที่ประกบกัน 2 แผ่น แบบ Flat type จึงไม่มีการสะสมฝุ่นอย่างสมบูรณ์ โดยมีการอัดก๊าซไนโตรเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของอากาศ บริเวณผลิตที่ต้องการความสะอาดสูง จะมีการติดตั้งแอร์ล็อก (Air Lock) ซึ่งมีระบบควบคุมไม่ให้ประตูแต่ละด้านเปิดพร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการปนเปื้อนจากการถ่ายเทของอากาศภายในบริเวณคลีนรูม มีการติดตั้ง Magnehelic Differential Pressure Gage ไว้ที่หน้าห้องคลีนรูมแต่ละห้องเพื่อให้รู้ว่า ความดันอากาศภายในห้องอยู่ในเกณฑ์กำหนด
GMP / PICs คือหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้เป็นแนวทางในการผลิตยาแผนปัจจุบันในประเทศแถบยุโรป
GMP / PICs จะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมาก ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยใช้ GMP/PICs นี้ จะได้คุณภาพที่ดีมากและมีความปลอดภัยสูงต่อผู้บริโภค
- ผนังคลีนรูม พื้นผิวจะเรียบ ไม่สะสมฝุ่นและทำความสะอาดง่าย วัสดุที่ทำผนังเป็น PU (Polyurethane) ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อนต่ำ ทำให้สามารถรักษาอุณหภูมิในพื้นที่ผลิตให้คงที่ บริเวณรอยต่อระหว่างพื้นกับผนังจะถูกปิดด้วยบัว PVC เพื่อให้ไม่สะสมฝุ่น
- ประตูจะติดด้วยกระจกนิรภัยที่ประกบกัน 2 แผ่น แบบ Flat type จึงไม่มีการสะสมฝุ่นอย่างสมบูรณ์ โดยมีการอัดก๊าซไนโตรเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของอากาศ บริเวณผลิตที่ต้องการความสะอาดสูง จะมีการติดตั้งแอร์ล็อก (Air Lock) ซึ่งมีระบบควบคุมไม่ให้ประตูแต่ละด้านเปิดพร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการปนเปื้อนจากการถ่ายเทของอากาศภายในบริเวณคลีนรูม มีการติดตั้ง Magnehelic Differential Pressure Gage ไว้ที่หน้าห้องคลีนรูมแต่ละห้องเพื่อให้รู้ว่า ความดันอากาศภายในห้องอยู่ในเกณฑ์กำหนด
GMP/PICs กำหนดให้มีการใช้ระบบอากาศ HVAC System
- อากาศที่เย็นและแห้งจะไม่เหมาะกับการเจริญ. เติบโตของจุลลินทรีย์ ดังนั้นอากาศในบริเวณผลิตของเราจึงมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการผลิตให้อยู่ระหว่าง 22+2องศาและควบคุม ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ (Relative Humidity) ให้อยู่ระหว่าง 50+-10%RH
ตลอดเวลาที่ทำการผลิต
- เพื่อควบคุมให้อากาศในห้องผลิตมีความสะอาดสูงและไม่ให้มีฝุ่นผงเกินกำหนด จึงมีการควบคุมแรง. ดันของอากาศในแต่ละห้องให้มีความแตกต่างกัน เพื่อบังคับทิศทางการไหลของอากาศให้มีการหมุนเวียนอย่างถูกต้อง และอากาศจะหมุนเวียนผ่านฟิลเตอร์ที่มีความละเอียดสูงระดับ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) อากาศในห้องผลิตจึงสะอาดตลอดเวลา
- อัตราการเปลี่ยนของอากาศ (Air Change) ซึ่งมีอัตราสูง ไม่ต่ำกว่า 25 Air Change การที่มี Air Change สูงนี้จะทำให้อากาศหมุนเวียนเร็ว ทำให้อากาศผ่านการกรองมากขึ้น อากาศจะมีความสะอาดมากอย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยปกติทั่วไป โรงงานที่ไม่ได้มีระบบ HVAC จะมีค่า Air Change น้อยมาก เพียง 2-5 เท่านั้น
- มีการควบคุมปริมาณฝุ่นผงในอากาศในระดับ Grade D ซึ่งเทียบเท่ากับ Cleanliness Class 100,000 หมายความว่า ในอากาศปริมาตร 1 ลูกบาศก์ฟุต จะมีอนุภาคที่มีขนาด 0.5 ไมครอนหรือใหญ่กว่า ไม่เกิน 100,000อนุภาค
- มีการเก็บตัวอย่างอากาศในพื้นที่ผลิตเป็นประจำ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณจุลลินทรีย์ในอากาศ ซึ่ง จะต้องไม่เกิน 100 cfu (Colony forming unit) โดยวิธี Settle plate (diameter 90 mm) for 4 hours.
- ชนิดของ Air Grille ซึ่งเป็นแบบชนิด Swirl diffuser ซึ่งเป็นแบบทำให้เกิดการหมุนวนของอากาศในทิศทางเดียว อากาศที่มีอยู่ในห้องเดิมจะไม่ถูกผสมกับอากาศที่เติมเข้าไปใหม่ อากาศจึงมีความบริสุทธิ์สูงและไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน
ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ ตามมาตราฐาน GMP/PICs
การผลิตน้ำบริสุทธิ์ ตามระบบ GMP/PICs จะต้องใช้ระบบผลิตน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถทำให้มั่นใจได้ว่า น้ำที่ผลิตได้จะมีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน (High Quality) และตลอดเวลาที่เปิดใช้งาน (High Consistency) น้ำบริสุทธิ์ (Purified water) ตามความหมายของ USP (United State Pharmacopoies) คือ น้ำบริสุทธิ์ที่อาจได้มาจากวิธีการต่าง ๆ เช่น กระบวนการกลั่น (Distilled) หรือ กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออน (Ion exhange treatment) หรือ กระบวนการกรองแบบย้อนกลับ (Reverse osmosis) เป็นต้น โดยที่น้ำที่ผลิตได้นั้นจะต้องไม่มีสารอื่น ๆ เจือปน
- เพื่อให้ได้น้ำบริสุทธิ์ตามมาตรฐาน GMP/PICs จึงจำเป็นต้องมีการออกแบบระบบให้มีการควบคุมกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวด คือ วัสดุที่มีการสัมผัสน้ำ เช่น ท่อ , วาวล์ ต่าง ๆ จะต้องทำด้วย Stainless Grade 316L ซึ่งเป็นแสตนเลสที่มีปริมาณ Carbon ในเนื้อแสตนเลสต่ำมาก ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดสนิมภายในท่อน้อยมาก และ พื้นผิวภายในท่อจะต้องมีความเรียบ (Ra) อย่างน้อย 0.8 micron
- พื้นผิว Stainless 316L จะต้องสัมผัสน้ำอยู่ตลอดเวลา จึงมีการทำPassivation ซึ่งทำให้ผิวแสตนเลสมีความแข็งแกร่งขึ้นทนทานต่อการผุกร่อนได้ดี
- การเชื่อมท่อน้ำจะใช้วิธีการเชื่อมแบบ Orbital welding ซึ่งเป็นการเชื่อมด้วยเครื่องมือเชื่อมที่ทันสมัยและผ่านการตรวจสอบ (Validate) มาแล้ว จึงทำให้มั่นใจได้ว่ารอยเชื่อมจะเรียบสนิท ไม่ก่อให้เกิดสนิม หรือ จุดสะสมของBiofiFilm ในภายหลัง
- วาวล์ที่ใช้ในระบบน้ำของระบบ GMP / PICs จะเป็นวาลว์ชนิด Diaphrame valve ซึ่งชิ้นส่วนภายในวาวล์จะไม่กั้นขวางการไหลของน้ำ จึงมีโอกาสสะสมสิ่งสกปรกหรือเกิด BiofiFilm น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับวาวล์ชนิดอื่นเช่น Butterfly valve หรือ Ball valve
- มีระบบการควบคุมความเร็วของการไหลของน้ำให้มีค่าอยู่ระหว่าง 1 – 3 เมตร/วินาที ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อจุลลินทรีย์ที่จุดใดจุดหนึ่งภายในท่อ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิด BiofiFilm
- มีการควบคุมปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ในน้ำโดยรังสี UV-C (254 nm) ทั้งนี้ระบบถูกออกแบบให้มีการควบคุมปริมาณความเร็วในการไหลของน้ำภายในท่อและความเข้มข้นของแสง UV ให้มีความสัมพันธ์กัน เพื่อให้มี Contact time นานเพียงพอที่จะทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบการเดินท่อและวาวล์ของระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ จะออกแบบให้ไม่มีส่วนที่ทำให้เกิดน้ำค้างท่อ (Zero Dead leg) หรือจุดที่ไม่เกิดการหมุนเวียนของน้ำ ดังนั้นการเกิด BiofiFilm จึงมีโอกาสเกิดน้อยมาก
- ระบบเก็บน้ำบริสุทธิ์ จะเป็นระบบปิด Closing storage container มีการควบคุมไม่ให้อากาศภายนอกเข้ามาผสมกับอากาศภายในได้โดยตรง โดยผ่าน Air vent ที่มีการกรองอากาศระดับ HEPA ก่อน จึงป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อน (contaminate) จากอากาศได้
- ถึงแม้ว่าระบบน้ำบริสุทธิ์จะถูกออกแบบและผลิตให้มีโอกาสในการเกิดเชื้อได้น้อยมาก แต่เมื่อมีการใช้ระบบผลิตน้ำไปนาน ๆ ก็จำเป็นต้องมีการทำความสะอาดระบบ (Sanitization) ซึ่งบริษัทเลือกใช้ระบบ Heat ซึ่งความร้อนจะช่วยฆ่าเชื้อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหมดความกังวลใจในเรื่องสารตกค้าง เมื่อเปรียบเทียบกับระบบ การฆ่าเชื้อโดยใช้ Ozone
วิธีการทดสอบทางคลินิกโดยแพทย์แพทย์ผิวหนัง
ใช้อาสาสมัคร ทำ Clinical Try ร่วมกับการใช้สถิติในการวัดผลการตรวจสอบด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น เครื่องวัดเม็ดสีผิว,วัดความชื้นของผิว,วัดความยืดหยุ่นผิววัดความลึกของริ้วรอย และ dermato invisible visualizer ตรวจความเปลี่ยนของผิวหนัง ในระดับที่สายตามองไม่เห็นการทดสอบของทางคลินิกเราร่วมกับ Spincontrol สถาบันทดสอบเครื่องสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ในการทดสอบเครื่องสำอาง และได้รับการรับรอง ทำให้ลูกค้ามั่นใจถึงคุณภาพได้มากขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถใช้ใบการทำการทดสอบเครื่องสำอาง ใช้ในการรับรองเพื่อทำการตลาดได้อีกด้วย
เป็นการทดสอบที่สำคัญเนื่องจากขั้นตอนแต่ละขั้นตอนในการผลิตครีมเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสารที่มีความสำคัญมีการสลายในแต่ละขั้นตอนการผลิตหรือไม่เราทดสอบโดยใช้ HPLC(high performance liquid chromatography) และ Spectrophotometer ทำให้มั่นใจได้ว่าเราได้สารสำคัญในปริมาณที่ถูกต้องหรือไม่
ขั้นตอนสุดท้ายคือการทดสอบความคงตัวของครีม เราทดสอบทั้งระยะสั้นและระยะยาว ว่ามีการแยกชั้นของเนื้อครีมหรือไม่ มีการเปลี่ยนสี หรือกลิ่นหรือไม่และสุดท้ายครีมที่เราพัฒนามานั้นมีปริมาณสารสำคัญตรงตามที่ลูกค้าต้องการหรือไม่ เราใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต วิจัย และพัฒนา ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า “ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพ ที่ไว้วางใจได้”
เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัยที่สุด
วันนี้!! จบทุกปัญหาเรื่องกันแดด Luxury Skin เอาอยู่!!
ครีมกันแดด สำหรับผิวหน้า ลักซูรี่ สกิน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น